ห้องที่ ๑๐ : ขุนโอวาทวรกิจ


          ทรพีสถิตยถิ่นถ้ำสุรการ
ปวงเทพย์อภิบาลปกป้อง
เจริญไวยศุขสำราญฤทธิรุ่ง เรืองเฮย
จรจากคูหาห้องฮึกห้าวหาญคนอง
          วัดรอยเหนเท่าท้าวบิตุรงค์
สมจิตรที่จำนงนึกไว้
จักเปนศัตรูปลงชีพพ่อ ตนนา
ตริเสรจแฝงตนใต้ร่มไม้ริมธาร
          ฝ่ายทรพาเผือกผู้โสภณ
ครั้นพระสุริยยลเยี่ยมฟ้า
พาพวกบริพารดลแดนถิ่น ธารนา
ต่างเลาะเสาะเล็มหญ้าย่างเยื้องบทจร
          มหิงษ์มหิทธิเหี้ยมใจหาญ
เหนพ่อโผนทยานจากซุ้ม
ว่าเหวยกระบือพาลทุจริต
มีแตมัวมืดกลุ้มราคร้ายฤษยา
          หวงเมียฆ่าบุตรม้วยมากหลาย
ไป่คิดเกรงอุบายบาปบ้าง
เราเปนบุตรสืบสายโลหิต ท่านนา
เจ็บจิตรจักหมายมล้างชีพให้ดับสูญ
          ทรพาพิโรธร้องเสียงดัง
มึงบุตรบควรบังอาจสู้
มึงรบจักมรณังพินาศ เองนา
เพราะประมาทตูผู้พ่อได้มีคุณ
          ทรพีเผยพจน์โต้ตอบคำ
ตัวท่านผิดทางธรรมก่อนโพ้น
ปวงเทพยไป่อุปถัมภ์พิทักษ ท่านนา
ถึงเคราะห์คราวจักโข้นชีพม้วยอาสัญ
          ทรพายินขัดแค้นหุนหัน
โผนเผ่นทลวงถลันขวิดคว้า
ทรพีย่อตัวยันยืนรับ รบพ่อ
ตัวต่อตัวต่างกล้าต่อโต้กลางแปลง
          กาษรสองเสี่ยวสู้อลวน
หาญต่อหาญเชิงชนเชี่ยวรู้
ต่างคล่องต่างแคล่วยลเสมอจักร หมุนนา
เสียงดุจลมพยุอู้เอิกทั้งอารัญ
          ทรพาเสียท่าทั้งเสียที
ถอยเลี่ยงเอียงอินทรีย์พลาดขว้ำ
กระบือบุตรรุดราวีไวว่อง
คะยิกเสี่ยวขยี้ซ้ำชีพสิ้นดับสูญ
          เสร็จศึกนึกขยิ่มยิ้มปรีดา
บานเบิกกระมลผาศุกแผ้ว
ลำพองเผ่นโผนมายังหมู่ มหิงษ์เฮย
ดลพวกบริพารแล้วลดเลี้ยวเลียโลม
          ตระหลบจบกลิ่นเคล้าคลึงชม
โดยเพศสัตวนิยมราคกล้า
ร่ายเร่ร่วมรักสมสังวาศ
แควไขว่ไล่ขวิดคว้าพุ่มไม้ไพรพง
          บันเทิงเริงร่าร้าสำราญ
จรจากพวกบริพารเผ่นก้าว
ลำพองคะนองหาญเหิมฮึก ใจเฮย
โทนเที่ยวทุกแดนด้าวอวดอ้างฤทธิไกร
          ลุเฃตรถิ่นท่านไท้เทวา
แกล้งเสี่ยวหักพฤกษาสนั่นก้อง
โดยจิตรลุฤบยาอยากย่ำ ยีเฮย
กำเริบฤทธิคำรนร้องเรียกไท้เทวัญ
          เหวย ๆ เทพย์ทั่วทั้งไพรสัณฑ์
เรืองเดชศักดาอันอาจกล้า
อย่าหลบอย่าหลีกผันภักตร์ซ่อน เสียเฮย
เชิญเร่งเรวอย่าช้าต่อสู้ตูลอง
          ปางจอมเทเวศรเจ้าหิมวานต์
สดับพจน์ทรพีพาลพูดท้า
มันมหิงษ์ดิรัจฉานชาติต่ำ นักนอ
เราไป่ควรรบร้ากับดวยกาษร
          จักเสื่อมเสียเดชด้วยรณรงค์
ถึงมาดรบเราคงฆ่าได้
เกรงเทพย์ทั่วแดนดงจักติ เตียนนา
จำงดจำเงือดให้ชีพอ้ายมหิงษ์พาล
          ตริแล้วตรัสตอบถ้อยทรพี
เราไป่อาจราวีรบสู้
สิงขรเทวบุตรมีเดชยิ่ง นักพ่อ
ผิใคร่รบใคร่รู้ฤทธิแล้วรณรงค์
          ฟังพจน์เทเวศรเอื้อเอาจิตร
ยอมยอบขยาดฤทธิ์บ่อแย้ง
ปรีเปรมกระมลคิดกำเริบ เริงเฮย
จรจากพนสัณฑ์แสร้งเสี่ยวซ้ายขวิดขวา
          ลำพองโผนโลดเลี้ยวลองเชิง
พบสัตวเสี่ยวชนเปิงป่นปี้
เฉวียนฉวัดวิ่งละเลิงลัดทุ่ง ทางนา
เริงรีบครรไลลี้ลาศเข้าเฃตรพนม
          ลุเบญจบรรพตอ้างอวดฤทธิ
แดเทพยซึ่งสถิตย์ถิ่นนั้น
งัดก้อนศิลาขวิดขวักไขว่
ซ้ำเสี่ยวสิงขรหั้นหักล้มแหลกกระจาย
          แล้วเผยผรุศเร้าชวนรบ
ท่านก็ใหญ่ในภพแผ่นหล้า
ฦๅเดชขจรจบรอบจักร วาฬแฮ
อย่านิ่งอย่าเนิ่นช้าต่อโต้ฤทธิไกร
          ฝ่ายฝูงเทเวศรเจ้าจอมผา
สดับพจน์ทรพีพาละพร้อง
จึ่งมีมธุรวาจาตอบ ประชดเฮย
เราหมดทั้งพวกพ้องพ่ายแพ้พาลมหิงษ์
          ผิท่านใคร่รบสู้ลองฤทธิ
มีเทพย์หนึ่งสถิตยสมุทโพ้น
ฦๅเดชทั่วทุกทิศเปนใหญ่ ยิ่งเฮย
เชิญท่านชวนเธอโน้นที่ชี้จงจร
          สดับถ้อยเทเวศแล้วเรวมา
ลุเฃตรฝั่งมหาสมุทกว้าง
โจนลงเล่นชลาละลอกลั่น ทเลเฮย
ขวิดทึกวนวิ่งคว้างฝั่งพื้นเพียงทลาย
          ว่าเหวยเทพยสถิตยท้องนัที
ฦๅเดชศักดามียิ่งผู้
ตัวเราชื่อทรพีจักต่อ ท่านนา
เรวเร่งออกรบสู้จักรู้ฤทธิมหิงษ์
          เทเวศรเอื้อนวัจน์โต้ตอบอัดถ์
เราเมตตาสรรพสัตว์ทั่วหน้า
ตัวเธอถ่อยสาหัศหาญฮึก นักนอ
ควรจักขอบคุณข้าดับร้อนศุขเกษม
          กลับคิดทรยศย้อนคำไข
อวดเก่งการชิงไชยยิ่งผู้
อยากรบเร่งเรวไปไกรลาศ โน้นนา
จึ่งจัดได้รบสู้ต่อด้วยพระศุลี

จบห้องที่ ๑๐


  เนื้อความกล่าวถึงทรพีอยู่ในถ้ำสุรกาญจน์ เทวดาปกป้องเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เมื่อทรพีวัดรอยเท้าได้เท่าทรพาผู้เป็นพ่อแล้ว ก็คิดจะสังหารพ่อ เมื่อทรพาพาบริวารมาหาอาหาร ทรพีจึงไปร้องท้าต่อสู้กัน ทรพาเสียทีถูกทรพีขวิดตาย ทรพีกำเริบไปท้ารบเทพทั่วป่า เทพแห่งป่าให้ไปท้าเทพแห่งขุนเขา เทพแห่งขุนเขาบอกให้ไปท้ารบกับเทพแห่งมหาสมุทร เทพแห่งมหาสมุทรจึงบอกให้ไปสู้กับพระศิวะที่เขาไกรลาส

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “มีแต่มัวมืดกลุ้ม”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “โดยจิตรลุฤษยา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “กับด้วยกาษร”